วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557

ปั๊มน้ำคืออะไร และมีกี่ประเภทเรามาดูกัน

หลายๆคนอาจจะคุ้นเคยกับมันดี เพราะทุกบ้านจำเป็นต้องใช้มัน เรามาดูกันดีกว่าว่าปั๊มน้ำคืออะไร มีกี่ประเภท และเราควรจะเลือกซื้อยังไง
www.yonghong.co.th



ปั๊มน้ำ เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ทุกบ้านจำเป็นต้องมี และมีการพัฒนาทางเทคโนโลยีมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน เพื่อตอบสนองความต้องการและอำนวยความสะดวกสบายต่อผู้บริโภคมากขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่ทำรายได้ดีให้กับร้านค้าอุปกรณ์เครื่องจักรกลต่างๆ คราวนี้เรามาดูกันดีกว่าว่ามีกี่ประเภท
  1. ปั๊มน้ำอัตโนมัติ เป็นปั๊มที่เวลาเปิดก๊อกน้ำแล้วปั๊มจะทำงานทันที พอเราเลิกใช้ปั๊มก็จะหยุดทำงาน ส่วนใหญ่บ้านที่เป็นบ้านเดี่ยวจะใช้ปั๊มน้ำอัตโนมัติแบบพิเศษ ปั๊มอัตโนมัติจะมีอยู่ 2 แบบ 
    • ปั๊มมีถังแรงดันอากาศ จะมีอายุการใฃ้งานนานกว่า แต่ตัวถังของมันทำมาจากเหล็กแล้วเคลือบด้านใน พอมีอายุการใช้งานไปนานๆ จะเกิดสนิม เวลารั่วต้องเปลี่ยนถังใหม่ แต่ในปัจจุบันมีขายเฉพาะตัวถัง
    • ปั๊มแรงดันคงที่ ถ้าเราเปิดน้ำ 4 จุดพร้อมกัน แรงดันน้ำจะไหลเท่ากันทั้ง 4 จุด ไม่ว่าก๊อกน้ำจะอยู่ด้านหน้าหรือด้านหลัง ถ้าเทียบกับปั๊มตัวบน ปั๊มชนิดนี้จะดึงน้ำได้แรงกว่า เพราะปัจจุบันหลายยี่ห้อทำเป็นถังสแตนเลส จะมีอายุการใช้งานนานขึ้น
  2. ปั๊มจุ่มหรือปั๊มแช่ ใช้สำหรับการดึงน้ำ มีให้เลือกหลายขนาด ถ้าเราต้องการให้ดึงน้ำเร็วต้องใช้ตัวที่วัตต์สูง แต่ถ้าไม่ต้องการดึงน้ำมาก ก็ใช้วัตต์น้อยๆ สำหรับปั๊มฃนิดนี้จะมีอยู่ 2 ฃนิด คือ มีลูกลอย เมื่อจุ่มน้ำสูงลูกลอยจะลอยขึ้น พอดูดน้ำหมดลูกลอยก็จะจมลง ปั๊มก็จะตัดอัตโนมัติ อีกชนิดคือไม่มีลูกลอย ต้องเปิด-ปิดสวิตซ์เอง
  3. ปั๊มหอยโข่ง ใช้สำหรับการดึงน้ำเก็บใส่ถัง เช่น ดึงน้ำขึ้นไปบนตึกสูงๆ หรือในการเกษตรคือส่งน้ำไปไกลๆ เพราะปั๊มชนิดนี้จะมีแรงม้าสูง แต่ไม่ได้เป็นระบบอัตโนมัติ เหมาะกับการใช้งานต่อเนื่อง
  4. ปั๊มกึ่งอัตโนมัติ จะมีลักษณะคล้ายๆกับปั๊มอัตโนมัติ แต่เราต้องเปิด-ปิดสวิตซ์เอง ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่นิยม ส่วนใหญ่จะนิยมแบบอัตโนมัติ
คราวนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าเราควรจะเลือกซื้อปั๊มน้ำแบบไหนถึงจะช่วยเซฟเงินในกระเป๋าตังของเรา


การเลือกใช้ปั๊มน้ำนั้นต้องคำนึงถึงจำนวนผู้อยู่อาศัย ถ้าเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ต้องเลือกใช้ปั๊มขนาด 100-150 วัตต์ หรือถ้าบ้านไหนไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น เลือกใช้แค่ 100 วัตต์ก็พอ แต่ถ้าใช้เครื่องทำน้ำอุ่น ควรเพิ่มเป็น 150 วัตต์ เพราะจะช่วยเพิ่มแรงดันน้ำอุ่นหรือเมื่อเราเปิดก๊อกน้ำหลายจุดพร้อมกัน สิ่งสำคัญที่ช่วยให้ประหยัดไฟคือการเลือกใช้ฝักบัว จะช่วยประหยัดค่าน้ำเป็นอย่างมาก แต่ถ้าเป็นฝักบัวแบบที่เปิดแล้วน้ำออกมาเป็นสาย จะเปลืองน้ำกว่า และกินไฟมากเพราะมอเตอร์ปั๊มน้ำจะทำงานอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการที่เราเลือกฝักบัวที่มีความละเอียดเวลาน้ำออกมา มอเตอร์จะไม่ทำงานหนักเพราะมันจะไม่ทำงานต่อเนื่อง ถึงจะดีในการเลือกใช้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น